วันที่: 2016-03-17 12:29:40.0
โปรแกรมตรวจวิเคราะห์หาสารชี้บ่งมะเร็ง 11 ชนิด ด้วยวิธี “Tumor Marker” โดยการเจาะเลือด มีรายละเอียดดังนี้
Tumor Marker เทคโนโลยีจากอเมริกาเพื่อการตรวจตัวชี้บ่งมะเร็งเบื้องต้น 11 ชนิด (T-11 Tumor Marker Profile) เป็นการตรวจหาโดยใช้หลักการ “Chemiluminescence Microparticle Immunoassay” โดยตรวจจากเลือด และใช้น้ำยาทดสอบของเครื่อง ARCHITECT ของ Abbott ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และตรวจเป็นที่ยอมรับของโรงบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ และสถาบันวิจัยต่างๆ โดยประกอบไปด้วย
ตัวบ่งชี้ – ความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
สามารถพบได้สูงในกลุ่มคนไข้ที่เป็นมะเร็งตับอ่อน ลำไส้ ตับ หรือในกลุ่มคนที่มีความผิดปกติที่ตับ เช่น โรคตับ ตับอ่อนอักเสบ ตับแข็ง หรือ Cystic Fibrosis โดยการตรวจหาค่า Ca19-9 จะติดตามการกระจายตัวของมะเร็งและใช้ติดตามผลการรักษาของคนไข้ ปริมาณของ Ca19-9 สูงบ่งบอกถึงการกระจายตัวของโรค และแสดงว่าการรักษาไม่ได้ผล ถ้าลดลงแสดงว่าการรักษาดีขึ้นและการรักษาได้ผลดี
AFP สร้างจากตับและ Yolk Sac ของตัวอ่อน สามารถพบได้ในภาวะปกติ ใช้ตรวจภาวะมะเร็งในตับ โดยผลการตรวจนี้ใช้ควบคู่กับการตรวจของแพทย์ด้วยวิธี Ultrasonography หรือ Amniography
CEA สามารถพบได้ในภาวะปกติ ใช้ตรวจภาวะมะเร็งในลำไส้ ใช้ในการเตรียมการรักษา และตรวจภายหลังรักษาว่าได้ผลเพียงใด โดยดูการแพร่กระจายของโรค ซึ่งค่า CEA อาจสูงได้ในกรณีมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมลาโนมา เต้านม ตับอ่อน กระเพาะ ปากมดลูก ไต กระเพาะปัสสาวะ ต่อมไทรอยด์ ตับ และมะเร็งไข่ ยังพบ CEA สูงได้ในภาวะที่ไม่ใช่มะเร็ง เช่นลำไส้อักเสบเรื้องรัง ตับอ่อนอักเสบ โรคตับ สูบบุหรี่จัด
ถูกสร้างโดยเซลล์ Trophoblast จากรก ที่จะเริ่มหลั่งหลังจากที่มีการฝังไข่ที่ผนังมดลูกเมื่อมีการตั้งครรภ์ พบปริมาณสูงสุดในสัปดาห์ที่ 8 - 10 หลังการตั้งครรภ์ ซึ่ง HCG เป็น Marker ที่สำคัญในการตรวจยืนยันและตรวจติดตามการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังบ่งชี้การตั้งครรภ์นอกมดลูก มะเร็งรังไข่ รังไข่อักเสบ และภาวะดาวน์ซินโดรม
หรือ Somatotrophin เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ 21,000 ประกอบด้วยกรดอะมิโน 190-200 หน่วย เรียงกันเป็นสาย Polypeptide และจับกันด้วย Disulfide Bridge (S=S bridge) เป็นโปรตีนที่สร้างจาก Somatrope ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Prolactin Cell จึงสามารถแยกออกจากกันด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา แต่ถ้าดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบว่า มีแกรนูลกลมๆ ในเซลล์ ติดสีเข้ม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 350-400 มิลลิไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแกรนูลของ Prolactin เป็นสารชี้บ่งของมะเร็งปอด
เป็นไกโคโปรตีน ใช้ดูการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านม และยังสามารถใช้ในการตรวจติดตามการรักษา เนื่องจากระดับปริมาณของ CA 15-3 จะสัมพันธ์กับอาการ ถ้าปริมาณลดลงแสดงว่าการรักษาได้ผล แต่ถ้าปริมาณสูงขึ้นแสดงว่ามีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและไม่ตอบสนองการรักษา กรณีที่ค่าของ CA 15-3 สูงกว่าค่าของคนปกติเล็กน้อย บ่งบอกถึงอาจจะมีการกลับมาของโรคในระยะแรก ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 5 เดือน จึงจะแสดงอาการทางคลินิก
Total PSA สร้างจาก Glandular Epithelium ของต่อมลูกหมาก สามารถพบทั้งในเลือดและปัสสาวะ ระดับ PSA จะต่ำลงในเลือดเมือมีการรั่วของ PSA จากต่อมลูกหมากและจะพบในปริมาณสูงในกลุ่มคนไข้มะเร็งเต้านม ในต่อมน้ำลาย การตรวจหาปริมาณ PSA ช่วยในการดูการแพร่กระจายในผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดหรือรักษามาแล้ว ถ้าปริมาณ PSA ยังคงสูงอยู่แสดงว่ายังมีเซลล์มะเร็งเหลืออยู่ในร่างกายการทดสอบหาค่า PSA ถือว่าเป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนไข้มะเร็งต่อมลูกหมาก
NSE ที่ปล่อยออกมาสูงมะเร็งของปอด มะเร็งของเซลล์ ประสาท (Neuroblastoma) การตรวจหาโดยใช้หลักการ Chemiluminescence Microparticle Immunoassay โดยตรวจจากเลือด โดยใช้น้ำยาทดสอบของ โดยเครื่อง ARCHITECT ของ Abbott ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
เป็นมิวซีนที่คล้ายไกลโคโปรตีนที่มีน้ำหนักโมเลกุล 200 – 1000 kDa ซึ่ง CA 125 เป็นแอนติเจนที่อยู่บนผิวของ Epithelial ของเซลล์มะเร็งรังไข่ซึ่งจะหลั่งออกมาในซีรั่มและน้ำในช่องท้อง CA 125 ใช้ในการดูปริมาณเพื่อการรักษาและเป็นตัวบ่งบอกระยะของโรคหลังจากรักษาการเป็นมะเร็งรังไข่ โดยถ้าปริมาณของ CA 125 มีค่าสูงกว่า 35 U/mL หลังการผ่าตัดบ่งบอกว่ายังมีเซลล์มะเร็งอยู่และมีโอกาสแพร่กระจาย ถ้ามีปริมาณของ CA 125 มีการลดลงอย่างรวดเร็วแสดงว่าการรักษาได้ผลดี แต่ถ้าปริมาณสูงขึ้นหลังจากการรักษาครั้งที่ 3 ของโปรแกรมคีโมฯ แสดงว่าการรักษาไม่ได้ผล นอกจากนี้ CA 125 สามารถสูงได้ในกลุ่มคนไข้ที่เป็น Benign เช่น Hepatic Cirrhosis, Acute Pancreatitis, Endometriosis, Pelvic Inflammatory Disease, Menstruation, First Trimester Pregnancy และมีประมาณ 1-2% ในคนปกติที่มีค่า CA 125 สูงในซีรั่ม
เป็นโปรตีนที่มีรูปร่างกลม ซึ่งโมเลกุลสามารถจับกับเหล็กได้ 4,000 อะตอม ดังนั้น Ferritin จึงเป็นแหล่งที่เก็บสะสมเหล็กที่สำคัญของร่างกาย โดยพบว่าเหล็กจะถูกเก็บไว้ในรูปของ Ferritin และ Hemosiderin ประมาณ 27 – 30 % ของเหล็กทั้งหมดในร่างกายคนปกติค่า Ferritin ในซีรั่มจะบอกถึงจำนวน Storage Iron ในร่างกาย ด้วยเหล็กสะสมทั้ง 2 รูปนี้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเก็บไว้ที่ RE cell ของตับ, ม้าม และไขกระดูก นอกจากนี้ยังพบได้ที่ Epithelial Cell ของลำไส้ ผิวหนัง หัวใจ และต่อมหมวกไต ซึ่งค่า Serum Ferritin ขึ้นอยู่กับปริมาณของ Tissue Ferritin ดังนั้นจึงมีความไวมากในการบอกถึงภาวะการขาดธาตุเหล็ก โดยจะมีค่าลดลงตั้งแต่ระยะ Iron Depletion
|
|
|